Sunday, November 5, 2017

รีวิว : Android

รีวิว Android

(android) เป็นระบบปฏิบัติการที่มีพื้นฐานอยู่บนลินุกซ์ ถูกออกแบบมาสำหรับอุปกรณ์ที่ใช้จอสัมผัส เช่นสมาร์ตโฟน และแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ ถูกคิดค้นและพัฒนาโดยบริษัทแอนดรอยด์ (Android, Inc.) ซึ่งต่อมา กูเกิล ได้ทำการซื้อต่อบริษัทในปี พ.ศ. 2548 แอนดรอยด์ถูกเปิดตัวเมื่อ ปี พ.ศ. 2550 พร้อมกับการก่อตั้งโอเพนแฮนด์เซตอัลไลแอนซ์ ซึ่งเป็นกลุ่มของบริษัทผลิตฮาร์ดแวร์, ซอฟต์แวร์ และการสื่อสารคมนาคม ที่ร่วมมือกันสร้างมาตรฐานเปิด สำหรับอุปกรณ์พกพาโดยสมาร์ตโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เครื่องแรกของโลกคือ เอชทีซี ดรีม วางจำหน่ายเมื่อปี พ.ศ. 2551
      แอนดรอยด์ (Android) คือระบบปฏิบัติการแบบเปิดเผยซอร์ฟแวร์ต้นฉบับ (Open Source) โดยบริษัท กูเกิ้ล (Google Inc.) ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง เนื่องจากอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ มีจำนวนมาก อุปกรณ์มีหลากหลายระดับ หลายราคา รวมทั้งสามาถทำงานบนอุปกรณ์ที่มีขนาดหน้าจอ และความละเอียดแตกต่างกันได้ ทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกได้ตามต้องการ
     บริษัทวิจัย Kantar เผยแพร่ผลสำรวจสะท้อนยอดขายอุปกรณ์พกพาใน 9 ตลาดใหญ่ทั่วโลก ซึ่งผลสำรวจก็ยังคงเป็น Android ที่ครองอันดับหนึ่งทุกพื้นที่เหมือนเดิม และต้องปรบมือให้ Windows Phone ที่มียอดสูงขึ้นในตลาดโมบาย
บริษัทวิจัยการตลาด Kantar ทำการสำรวจตลาดหลัก 9 แห่งของโลก ได้แก่ ออสเตรเลีย, จีน, ฝรั่งเศส, เยอรมันนี, อิตาลี, ญี่ปุ่น, สเปน, อเมริกา และอังกฤษ ซึ่งผลที่ได้ก็แสดงให้เห็นว่า Android ครองส่วนแบ่งไป 64.2% ของยอดขายอุปกรณ์พกพาในไตรมาสแรกของปีนี้



ประวัติความเป็นมา
    เริ่มต้นระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ถูกพัฒนามาจากบริษัท แอนดรอยด์ (Android Inc.) เมื่อปี พ.ศ 2546 โดยมีนาย แอนดี้ รูบิน (Andy Rubin) ผู้ให้กำเนิดระบบปฏิบัติการนี้ และถูกบริษัท กูเกิ้ล ซื้อกิจการเมื่อ เดือนสิงหาคม ปี พ.ศ 2548 โดยบริษัทแอนดรอยด์ ได้กลายเป็นมาบริษัทลูก ของบริษัทกูเกิ้ล และยังมีนาย แอนดี้ รูบิน ดำเนินงานอยู่ในทีมพัฒนาระบบปฏิบัติการต่อไป
ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ เป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนามาจากการนำเอา แกนกลางของระบบปฏิบัติการลินุกซ์ (Linux Kernel) ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่ออกแบบมาเพื่อทำงานเป็นเครื่องให้บริการ (Server) มาพัฒนาต่อ เพื่อให้กลายเป็นระบบปฏิบัติการบนอุปกรณ์พกพา (Mobile Operating System)
รุ่นต่างๆ ของแอนดรอยด์
    หลังจากที่บริษัท กูเกิ้ล ได้ซื้อบริษัท แอนดรอยด์ และได้มีการก่อตั้งสมาคม สมาคม OHA (Open Handset Alliance) เป็นที่เรียบร้อย ทางกูเกิ้ลก็ได้มีการพัฒนาระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ขึ้นมาเป็นลำดับ โดยพอสังเขป ได้ดังนี้
Android Phone ที่ ใช้ Android(แอนดรอยด์) 1.5 จะมีความสามารถหลักๆดังนี้ควบคุมด้วย Touch Screen
  • ใช้นิ้วแตะเพื่อควบคุมการทำงานมือถือ
ใช้บริการ Google Service
  • Web Search
  • Gmail
  • Calendar
  • Google Map
Social Network ใช้บริการ Social Network ผ่าน App ที่น่าสนใจหลายเว็บ
  • Facebook for Android
  • Twitter for Android
การติดตั้ง โปรแกรมลงใน Android Phone
  • ลงโปรแกรมผ่าน Android Phone ผ่านส่วนเชื่อมต่อที่เรียกกว่า Android Market Placeกล้องถ่ายรูป และ ถ่ายวีดีโอ ได้
  • Upload วีดีโอขึ้น Youtube.com และ รูปถ่ายไปยัง Picasa ได้จาก Android(แอนดรอยด์) Phone โดยตรง
ระบบเดาคำศัพท์ Text-Prediction
  • ช่วยในการพิมพ์ โดย Android Phone จะช่วยเดาว่าเรากำลังพิมพ์คำว่าอะไร เพื่อลดเวลาในการพิมพ์ข้อความ
Bluetooth
  • รองรับ Bluetooth A2DP / AVRCP
  • เชื่อมต่ออุปกรณ์ Bluetooth Handfree อัตโนมัติ(เชื่อมต่อครั้งแรกต้อง Paire Device เหมือนมือถืออื่นๆ)
Home Screen
  • สามารถวาง Widget (หน้าต่างเล็กๆเพื่อโชว์การทำงานของ App เช่น โชว์ภาพถ่าย โชว์หน้าต่างเล่นเพลง แบบ Winamp
Android Phone ที่ลงระบบ Android 1.6 
Web History / contact list Search


  • เพิ่มการค้นหาในสถิติการใช้งานเว็บไซต์ และรายชื่อ contacts ใน Android Phone

Android(แอนดรอยด์) Phone พูดได้ Text-to-Speech
  • Android Phone สามารถพูดตามข้อความได้(text-to-speech) เช่นการอ่านข้อความ sms โดยเราไม่จำเป็นต้องอ่านเอง
Voice Control
  • โทรออกด้วยเสียง
  • Google Search ด้วยเสียง
 Android 2.0/2.1 จะมีความสามารถที่พัฒนาจาก Android 1.6 ดังนี้
Performance
  • ปรับปรุงความเร็วในการทำงานของ Android ให้เร็วยิ่งขึ้น
  • ปรับปรุง User Interface
  • ปรับปรุง รายการติดต่อ(Contact Lists)
  • ปรับปรุงการแสดงผล ขาว-ดำ
  • ใช้งาน Multi-Touch Screen ได้
  • ปรับปรุง คีย์บอร์ดเสมือน(คีย์บอร์ดบนหน้าจอ)
Internet Browser
  • ปรับปรุง Internet Browser และพัฒนารองรับเทคโนโลยี HTML5
Google Service
  • ใช้ Google Maps 3.1.2
  • รองรับ Microsoft Exchange
Camera
  • รองรับการใช้ Flash สำหรับการถ่ายรูป
  • กล้องถ่ายรูป ซูมระดับดิจิตอลได้
Home Screen
  • Live Wallpapers (วอลล์เปเปอร์ แบบเคลื่อนไหวและตอบสนองการกดหน้าจอได้ เช่น หน้าจอแบบพื้นน้ำ)
Bluetooth
    • รองรับ Bluetooth 2.1
Android(แอนดรอยด์) 2.2 (Froyo)
Android Phone ที่ลงระบบ Android 2.2 จะมีความสามารถที่พัฒนาจาก Android 2.1 ดังนี้
Performance
  • การทำงานของ Android Phone เร็วขึ้น 5 เท่า
  • รองรับการลงโปรแกรมลงใน Memory Card
  • เปลี่ยนภาษาบน keyboard Android Phone ได้ง่ายๆ
Internet Tethering
  • ใช้ Android Phone เป็นโมเด็มสำหรับต่ออินเตอร์เน็ตให้คอมพิวเตอร์ได้(Tethering)
  • แปลงร่าง Android Phone เป็น Wifi Hotspot
Internet Browser
  • รองรับการใช้ Adobe Flash 10.1 (ทำงานเร็วขึ้น)
  • Brower ใหม่ใช้ความสามารถของ Chrome และ JavaScript Engine
  • Browser ใช้งาน file upload ได้
Google Service
  • ปรับปรุงความสามารถ Microsoft Exchange สามารถ sync ปฏิทินได้
Bluetooth
  • โทรออกด้วยเสียงผ่าน Bluetooth
Android(แอนดรอยด์) 2.3 
Performance
  • การทำงานของ Android Phone เร็วขึ้น 6 เท่า
  • CPU ความเร็วอย่างน้อย 1 GHz Up 
  • รองรับการลงโปรแกรมลงใน Memory Card
  • เปลี่ยนภาษาบน keyboard Android Phone ได้ง่ายๆ
  • Touch screnn multi touch
Internet Tethering
  • ใช้ Android Phone เป็นโมเด็มสำหรับต่ออินเตอร์เน็ตให้คอมพิวเตอร์ได้(Tethering)
  • แปลงร่าง Android Phone เป็น Wifi Hotspot
Internet Browser
  • รองรับการใช้ Adobe Flash 10.1 (ทำงานเร็วขึ้น)
  • Brower ใหม่ใช้ความสามารถของ Chrome และ JavaScript Engine
  • Browser ใช้งาน file upload ได้
  • รองรับ HTML 5
Google Service
  • ปรับปรุงความสามารถ Microsoft Exchange สามารถ sync ปฏิทินได้
Bluetooth
  • โทรออกด้วยเสียงผ่าน Blueto
Android(แอนดรอยด์) 3.0 (Honeycomb)

Android Phone ที่ลงระบบ Android 3.0 จะมีความสามารถที่พัฒนาจาก Android 2.3 ดังนี้

การแสดงผล
  • รองรับการแสดงผลแบบ 3D สามมิติ
  • อินเทอร์เฟซแบบใหม่เรียกว่า “Holographic” โดยเพิ่มฟีเจอร์ด้าน 3D
Performance
  • ปรับปรุงการทำงานให้เร็วขึ้น
  • ปรับปรุงระบบ Multi-Tasking
  • การสั่งงานผ่านเมนูที่ถูกซ่อนไว้จะถูกเปลี่ยนเป็น button bar ให้เห็นปุ่มชัดๆ
Internet Browser
  • ปรุงเบราว์เซอร์ให้รองรับ Tablet
  • สามารถ sync กับ Chrome Bookmarks ได้
Google Service
  • สามารถใช้งาน Google eBooks
  • รองรับการใช้งาน Google Talk ที่สนทนาผ่านวิดีโอได้
ด้านอื่นๆ
  • สามารถใช้ได้กับฮาร์ดแวร์ที่ไม่มีปุ่มจริงเช่น Tablet เพราะออกแบบมาให้รองรับ Virtual Buttons

Android 1.0

ระบบ Android เผยโฉมอย่างเป็นทางการครั้งแรกในเดือนกันยายน 2551 สมาร์ทโฟนเครื่องแรกที่ใช้ Android ก็คือ HTC Dream สเปคคร่าวๆ หน้าจอ 3.2 นิ้ว ซีพียู 528 MHz แรม  256 MB ..ที่คือสเปค Android เครื่องแรกของโลกนะ
ฟังชั่นการใช้งาน Android สมัยนั้นมีเพียงการใช้งานพื้นที่ฐานที่ครบครัน เช่น โหลดแอพจากมาเก็ต ท่องเว็บ ถ่ายรูป รับส่งอีเมล์ ดุแผนที่ ตั้งนาฬิกาปลุก และบริการอื่นๆจาก Google

Android 1.1

ต่อมามีการอัพเดทเวอร์ชั่นใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2552 เพิ่มฟังชั่นเข้ามาเล็กน้อย เช่น บันทึกสิ่งที่แนบในข้อความ รายละเอียดของสถานในแผนที่มีมากขึ้น
Android OS

Android 1.5 Cupcake

เป็นครั้งแรกที่ Android มีชื่อเล่นอย่างเป็นทางการนั่นก็คือ Cupcake เป็นชื่อขนม และ Android รุ่นต่อๆมาก็เป็นชื่อขนมหมด รุ่นนี้เปิดตัวเมื่อ เมษายน 2552
Android เวอร์ชั่นนี้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่มามากมาย เช่น อัพโหลดวิดีโอขึ้น YouTube ได้, รองรับวิดเจ็ต, รองรับแอพคีย์บอร์ด ฯลฯ
Android OS

Android 1.6 Donut

ผมเพิ่งจะมาใช้มือถือ Android ครั้งแรกก็คือรุ่นนี้แหล่ะ ส่วนเครื่องแรกที่ผมใช้ก็คือ Wellcom a66 รุ่นนี้จัดว่าเป็นตำนานเลยนะ เพราะทำออกมาได้ลื่นมาก ใครๆก็ชมว่าลื่นเกือบเท่า iPhone
สำหรับ Android รุ่นนี้เปิดตัวเมื่อ กันยายน 2552 มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจหลายอย่าง เช่น สามารถค้นหารายการด้วยเสียง รับฟังเสียงได้หลายภาษา เลือกรูปที่จะลบได้หลายรูป ปรับปรุงความเร็วกล้อง เป็นต้น

Android 2.0 Eclair

Android รุ่นนี้เปิดตัวเมื่อเดือนตุลาคม 2552 หากกับรุ่นก่อนแค่เดือนเดียว แต่มีฟีเจอร์มากมาย เช่น รองรับบลูทูธ 2.1 แป้นพิมพ์มีระบบเดาคำอัจฉริยะ ใช้ภาพพื้นหลังเป็นภาพเคลื่อนไหวได้ ฯลฯ
แต่ Android รุ่นนี้มีให้อัพเดทเฉพาะในอเมริกาเท่านั้น

Android 2.0.1 Eclair

เปิดตัว ธันวาคม 2552 เป็นรุ่นแก้บั๊กเฉยๆ

Android 2.1 Eclair

เปิดตัว มกราคม 2553 เป็นรุ่นแก้บั๊กเช่นกัน แต่รุ่นนี้มีให้อัพเดทกันทั่วโลก
Android OS

Android 2.2 Froyo

เปิดตัวเดือนพฤษภาคม 2553 นี่คือ Android ที่มีการเปลี่ยนแปลงจนทำให้ระบบมีความน่าใช้ขึ้นมาก การทำงานของเครื่องเร็วขึ้น แชร์ไวไฟให้เพื่อนได้ และฟีเจอร์ที่น่าสนใจที่สุดคือ “รองรับหน้าจอขนาด 4 นิ้ว” ทำให้ Android รุ่นหลังๆเริ่มมีหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้น

Android 2.3 gingerbread

เปิดตัเดือนธันวาคม 2553 รุ่นนี้มีการปรับหน้าตาการใช้งานให้ดูทันสมัยมากขึ้น รองรับหน้าจอขนาดใหญ่ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบ เป็นต้น

Android 2.3.3 gingerbread

เปิดตัวกุมภาพันธ์ 2554 ความเปลี่ยนแปลงของรุ่นนี้คือรองรับวิดีโอคอล รองรับ 4G ปรับปรุงกล้อง และแก้บั๊กต่างๆ
motorola-xoom

Android 3.0 Honeycomb

เปิดตัวเดือนกุมภาพันธ์ 2554 รุ่นนี้ใช้สำหรับ “แท็บเลท” เท่านั้น และแท็บเลทที่เป็นทางการรุ่นแรกของ Android ก็คือ Motorola Xoom
ฟีเจอร์ที่เพิ่มมาใหม่ เช่น มัลติทาส์กกิงแบบใหม่ ดูรูปภาพได้ในโหมดเต็มจอ รองรับการทำงานด้วยซีพียูหลายแกน ฯลฯ

Android 3.1 Honeycomb

เปิดตัวเดือนพฤษภาคม 2554 มีฟีเจอร์ใหม่ เช่น รองรับจอยสติก รองรับพร็อกซีเอชทีทีพี สามารถปรับขนาดวิดเจ็ตบนหน้าหลักได้ เป็นต้น

Android 3.2 Honeycomb

เปิดตัวเดือนกรกฎาคม 2554 รุ่นนี้เน้นการแก้ไขระบบ แต่ก็มีฟีเจอร์ใหม่ๆบ้าง เช่น รองรับแฟลชในเว็บเบราว์เซอร์ สามารถอัพเดทแอพได้แบบอัตโนมัติ เป็นต้น

Android 4.0 Ice cream sandwich

เปิดตัวเดือนตุลาคม 2554 ผมว่ารุ่นนี้คือความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ Android เพราะเป็นระบบที่รองรับทั้งแท็บเลทและมือถือ หน้าตาของระบบดูทันสมัยพอๆกับ iOS ก่อนหน้านี้ให้พูดถึง UI ของ Android ผมว่าเป็นอะไรที่โบราณมากหากเทียบกับคู่แข่ง
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ ปรับแต่งหน้าโฮมได้ละเอียดมากขึ้น สามารถปลดล็อกหน้าจอด้วยใบหน้า(แต่ฟีเจอร์นี้โครตแป๊ก เพราะถ้าเป็นที่แสงน้อยก็ต้องใช้รหัสผ่านเหมือนเดิม) กล้องถ่ายภาพแบบพาโนรามาได้ มีไวไฟไดเรก บันทึกวิดีโอที่ความละเอียด 1080p เป็นต้น

Android 4.0.3 Ice cream sandwich

เปิดตัวเดือนธันวาคม 2554 เป็นรุ่นที่เน้นการแก้บั๊ก
Android OS

Android 4.1 jellybean

เปิดตัวเดือนกรกฎาคม 2555 Android รุ่นนี้มีการปรับปรุงการทำงานหลายอย่าง เช่น ใช้คำสั่งเสียงออฟไลน์, ปรับปรุงแอพกล้องถ่ายรูป, สามารถปิดการแจ้งเตือนเป็นรายแอพ เป็นต้น

Android 4.2 jellybean

เปิดตัวเดือนพฤศจิกายน 2555 ฟีเจอร์เด่นของ Android รุ่นนี้คือ ถ่ายภาพแบบ Photo Sphere (หมุน 360 องศา) ส่งข้อความแบบกลุ่ม รองรับบัญชีผู้ใช้หลายบัญชี เป็นต้น

Android 4.3 jellybean

เปิดตัวเดือนกรกฎาคม 2556 ผ่านมา 1 ปีแล้วแต่ยังคงใช้ชื่อ jellybean สำหรับฟีเจอร์ที่น่าสนใจ เช่น รองรับอัตราส่วน 4K, รองรับภาษาที่เขียนจากขวาไปซ้าย,เปลี่ยนหน้าตาของแอปกล้องใหม่ เป็นต้น
Android OS

Android 4.4 KitKat

เปิดตัวเดือนตุลาคม พ.ศ. 2556 เป็นครั้งแรกที่ใช้ชื่อขนทหวานเป็นยี่ห้อขนม แม้ว่ารูปแบบโดยรวมจะดูไม่ต่างกันกับรุ่น jellybean เท่าไหร่ สิ่งที่น่าสนใจของรุ่นนี้คือ “รันไทม์ใหม่” เป็นแบบ ART ทำให้เครื่องมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม
Android OS

Android 5.0 Lollipop

เปิดตัวเดือนพฤศจิกายน 2557 รุ่นนี้นับเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของระบบ Android เพราะมีการออกแบบ UI ใหม่ ไม่ดูแข็งมืดเหมิอนที่ผ่านมา (หลายคนชมว่าสวยกว่า iOS) ระบบก็ไหลลื่นขึ้นมาก
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ เช่น แถบแจ้งเตือนแบบใหม่ มัลติทาสก์ที่ดูไฮโซมากขึ้น เพิ่มผู้ใช้งานได้หลายบัญชี โหมดตรึงหน้าจอ เป็นต้น

Android M

เปิดตัวเดือนพฤษภาคม 2558 ยังไม่มีเลขรุ่นและชื่อเล่นอย่างเป็นทางการ Android รุ่นนี้เน้นทำให้ระบบมีประสิทธิภาพและการใช้งานที่คล่องตัวมากขึ้น ฟีเจอร์ใหม่ๆก็พอมีบ้าง เช่น Dark Mode, ระบบจ่ายเงิน Android Pay, สแกนลายนิ้วมือ, Multi-windows เป็นต้น

ข้อเด่นของแอนดรอยด์

      เนื่องจากระบบปฏิบัตการแอนดรอยด์มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว และมีส่วนแบ่งตลาดของอุปกรณ์ด้านนี้ ขึ้นทุกขณะ ทำให้กลุ่มผู้ใช้งาน และกลุ่มนักพัฒนาโปรแกรม ให้ความสำคัญกับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เพิ่มมากขึ้น
     เมื่อมองในด้านของกลุ่มผลิตภัณฑ์ บริษัทที่มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ ได้มีการนำเอาระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ไปใช้ในสินค้าของตนเอง พร้อมทั้งยังมีการปรับแต่งให้ระบบปฏิบัติการมีความสามารถ การจัดวาง โปรแกรม และลูกเล่นใหม่ๆ ที่แตกต่างจากคู่แข่งในท้องตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มสินค้าที่เป็น มือถือรุ่นใหม่ (SmartPhone) และอุปกรณ์จอสัมผัส (Touch Screen) โดยมีคุณลักษณะแตกต่างกันไป เช่นขนาดหน้าจอ ระบบโทรศัพท์ ความเร็วของหน่วยประมวลผล ปริมาณหน่วยความจำ แม้กระทั่งอุปกรณ์ตรวจจับต่างๆ(Sensor)
    หากมองในด้านของการพัฒนาโปรแกรม ทางบริษัท กูเกิ้ล ได้มีการพัฒนา Application Framework ไว้สำหรับนักพัฒนาใช้งาน ได้อย่างสะดวก และไม่เกิดปัญหาเมื่อนำชุดโปรแกรมที่พัฒนาขึ้นมา ไปใช้กับอุปกรณ์ที่มีคุณลักษณะต่างกัน เช่นขนาดจออุปกรณ์ ไม่เท่ากัน ก็ยังสามารถใช้งานโปรแกรมได้เหมือนกัน เป็นต้น

No comments:

Post a Comment